THEWAYNEWS > News > คุณยายตื่นเช้าไปวัด โจรย่องทุบหัวสลบ ล้วงชิงทองกว่า 7 บาท

aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTExNC81NTcyNzg2L25ld3MyNi5qcGc=

ไอ้โจรแสบย่องทุบหัวคุณยายวัย 84 ชิงทองหนักร่วม 7 บาท พร้อมเงินสดครึ่งแสน ระหว่างทางคุณจะไปทำบุญที่วัด ตำรวจเร่งแกะรอย เชื่อเป็นคนในพื้นที่

(5 มี.ค.) พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สืบสวนนครพนม พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ ศรีจันทร์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีชิงทรัพย์ กรณีเกิดเหตุ นางมา อายุ 84 ปี ชาว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

หลังจากที่ คุณยายมา ถูกคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกปิดบังใบหน้า เข้าทำร้ายร่างกาย ทุบศีรษะ กระทั่งหมดสติ ขณะผู้เสียหายกำลังปั่นจักรยานสามล้อคนชรา เพื่อเตรียมไปทำบุญที่วัด บริเวณถนนห่างจากหน้าบ้าน ประมาณ 20 เมตร เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา

ภายหลังจากที่ผู้เสียหายฟื้นคืนสติ จึงกลับไปบอกลูกชายให้พาไปตรวจรักษาร่างกายที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.ศรีสงคราม เร่งติดตามตัวหาคนร้ายมาดำเนินคดี

สำหรับทรัพย์สินที่คนร้ายชิงไปได้ ประกอบด้วย ทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 7 บาท ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ ลายโซ่ น้ำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น แหวนทองคำ ลายมังกร น้ำหนัก 0.5 บาท จำนวน 2 วง พระหลวงพ่อคูณเลี่ยมทองน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 วง และเงินสดอีก 61,000 บาท เพราะคุณยายใส่กระเป๋าติดตัวไว้ตลอด

เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นเวลาเช้าตรู่ ฟ้ายังไม่สว่าง ประกอบกับถนนตรงจุดเกิดเหตุมีไฟส่องสว่างน้อย ผู้เสียหายกำลังไปวัดทำบุญ โดยมักจะชอบนำเอากระเป๋าทรัพย์สินติดตัวไว้ตลอด ช่วงเกิดเหตุพบชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดดำ มีหมวกปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาด้านหลังคุณยาย ขณะที่กำลังปั่นจักรยานอยู่

จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดทุบบริเวณศีรษะ ทำให้คุณยายล้มหมดสติไปกับพื้น และชิงเอาทรัพย์สินของยายที่เก็บไว้ในกระเป๋าที่เสียบไว้ในเสื้อด้านใน แล้วหลบหนีไป เคราะห์ดีที่คุณยายแค่หมดสติและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐาน เพื่อส่งให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือ หาดีเอ็นเอ เพื่อติดตามตัวหาคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งทางตำรวจมุ่งไปที่คนในพื้นที่เป็นคนลงมือก่อเหตุ และจะเร่งตรวจสอบติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด