THEWAYNEWS > Travel > In bound > “นั่งรถไฟ KIHA 183 สืบสาน รักษา ต่อยอด @ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตามรอยลิซ่า อยุธยา”

                นั่งรถไฟ KIHA 183 สืบสาน รักษา ต่อยอด @ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตามรอยลิซ่า อยุธยา

                เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา สำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม

        การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอยุธยา  สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดอยุธยา สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) จัดกิจกรรมนั่งรถไฟ KIHA 183 สืบสาน รักษา ต่อยอด @ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตามรอยลิซ่า อยุธยาเยี่ยมชมงานศิลป์ล้ำค่า ที่พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน เช็คอินถ่ายรูปตามรอยลอซ่า 3 วัด วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ วัดแม่นางปลื้ม แวะซื้อของฝากที่ตลาดน้ำอโยธยา

         นางสาวจรีพร ชิ่นชม เจ้าหน้าประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายภูวเมศฐ์ ปิยะฐานีศิลป์ เจ้าหน้าประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย นายกฤษฎา บัวรังษี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดอยุธยา นายปวริศ สุขศาสนา เจ้าหน้าที่ประสานงานด้านการท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดอยุธยา นางสาวมาดี เหมือนมณี เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดอยุธยา นาย ธนชิต สิงห์แก้ว เจ้าหน้าที่ธุรการ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดอยุธยา ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยว “นั่งรถไฟ KIHA 183 สืบสาน รักษา ต่อยอด @ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตามรอยลิซ่า อยุธยา”

              ลงทะเบียนรับป้ายคล้องคอ

      นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาลงทะเบียนกันแต่เช้า และรับป้ายคล้องคอพร้อมเลขที่นั่ง ใครนั่งตู้ไหนมีสีป้ายคล้องคอแบ่งเป็นสีแยกให้ชัดเจน ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

       ข้างโต๊ะลงทะเบียน ทางการรถไฟก็จัดเครื่องดื่มร้อน มีทั้งกาแฟ โอวัลติน น้ำเต้าหู้ ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ดื่มเครื่องดื่มน้ำร้อนกันแล้ว ก็ถ่ายรูปกับป้ายสถานนีรถไฟกรุงเทพ กับรถไฟ KIHA 183 หรือจะถ่ายรูปกับหัวรถจักรโบราณ ที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย นำมาจัดแสดงไว้ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ถึง 4 ขบวน

             รถไฟ KIHA 183 ออกเดินทาง

         8.10 น. รถไฟ KIHA 183 เคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงตรงเวลา และจอดรับนักท่องเที่ยวอีกจำนวนหนึ่งที่สถานีรถไฟบางซื่อ ที่อยู่ข้างสถานนีกรุงเทพอภิวัฒน์ รับนักท่องเที่ยวครบเต็มทุกที่นั่งจำนวน 200 คน นั่งตามเลขที่นั่งตามป้ายคล้องคอระบุ

           Staff เริ่มเดินเสิร์ฟข้าวกล่องแบบ ไทยเบนโต๊ะ เมนูวันนี้เป็น ข้าวหอมมะลิโรยงา เสิร์ฟมาพร้อมกับ ไก่คาราเกะ หมูอบ เคียงด้วยผักลวก และมีน้ำจิ้มซีฟู้ดมาให้ด้วย เครื่องดื่มเป็นชาเขียวญี่ปุ่นเพื่อเข้ากับรถไฟ KIHA หลังจากทานข้าวเสร็จ พนักงานตรวจตั๋วของการรถไฟเริ่มเดินตรวจตั๋วผู้โดยสาร

            สถานีรถไฟบางประอิน 

         รถไฟ KIHA 183 พานักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งในทรีม “นั่งรถไฟ KIHA 183 สืบสาน รักษา ต่อยอด @ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตามรอยลิซ่า อยุธยา” รถไฟมาจอดที่สถานีบางปะอิน ซึ่งอยู่ใกล้ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน กว่าจอดที่สถานีอยุธยา นักท่องเที่ยวลงจากรถไฟแล้วก็เดินไปขึ้นรถบัส ที่จอดรอรับอยู่แล้ว 5 บัส เพื่อเดินทางต่อไปที่ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน

                  พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน บางปะอิน

           รถบัสจอดหน้า พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน จุดแรกของทริปนี้ นักท่องเที่ยวต้องนำของใช้ กระเป๋าถือต่างๆ ต้องนำไปเก็บไว้ล็อคเกอร์ที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดไว้ให้ เพราะชั้นบนที่จัดแสดงงานศิลป์ ห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาดกล้องมือถือก็ไม่อนุญาตให้ถ่าย นักท่องเที่ยวจะถ่ายรูปเช็คอินกับ บุกษกมาลา 5 ยอด ที่จัดแสดงอยู่ที่โถงชั้นล่างของอาคารจัดแสดงได้เท่านั้น 

         พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน บางปะอิน สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมผลงานประณีตศิลป์ชิ้นเอก ของช่างจากสถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ภายในจัดแสดง บุกษกมาลา พระที่นั่งพุดตานถมทอง สุพรรณเภตรา ขันถมทองลายมงคล 108 ฉากถมทองเรื่องรามเกียรติ์ งานคร่ำ พระที่นั่งกงคร่ำทอง พระที่นั่งพุดตานคร่ำ สัปคับคร่ำทอง งานปักผ้า ฉากปักไหมน้อยเรื่องอิเหนา และเรื่องหิมพานต์ งานเครื่องเงินเครื่องทอง เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์จำลอง เรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณจำลอง และเรือพระที่นั่งศรีประภัศรไชยจำลอง พิพิธภัณฑ์ฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.30 น.

               บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน โรงแรมกรุงศรี ริเวอร์ อยุธยา

      มาทานมื้อกลางวันที่ โรงแรมกรุงศรี ริเวอร์ อยุธยา เป็นอาหารแบบบุฟเฟต์ มีอาหารให้เลือกทั้งหมด 4 ไลน์ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูตุ๋น ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง ไลน์ 2 สลัดผักบวกแฮม ซูซิ น้ำพริกกะปิมะเขือชุบแป้งทอด ไลน์ 3 ข้าวผัดกุนเชียง ไข่ลูกเขย ผัดผักน้ำมันหอย แกงเขียวหวานหมู ไลน์ 4 เค้กพร้อมขนมหวานน้ำแข็งใส  

              ตามรอยลิซ่าที่ วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ วัดแม่นางปลื้ม

        ช่วงบ่ายมาตามรอยลิซ่าที่วัดมหาธาตุ เป็นวัดแรก ถ่ายรูปหมู่ที่หน้าเจดีย์ประธานของวัดมหาธาตุกันเสร็จเรียบร้อย ก็ต่างแยกย้ายกันไปถ่ายรูปเช็คอินตามรอยลิซ่ากันตามใจชอบ ลิซ่ามาเช็คอินถ่ายรูปที่วัดนี้ 3 จุด จุดแรกเศียรพระพุทธรูปรากโพธิ์ จุดที่ 2 หน้าพระอุโบสถที่อยู่ถัดมา จุดที่ 3 อยู่ที่ซุ้มประตูทางเข้าไปเจดีย์องค์ประธาน

             วัดหน้าพระเมรุราชิการาม หรือวัดหน้าพระเมรุ

       มาถึงวัดที่ 2 วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดที่ไม่ถูกทำลายในสมัยเสียกรุงครั้งที่ 2 ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ ปางมารวิชัย ใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศ หล่อด้วยโลหะสำริด ลงรักปิดทอง ประดับกระจก หน้าตักกว้าง 4.50 เมตร สูง 6 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่ทรงอุณหิส (มงกุฎ) กรองศอ สังวาล ทับทรวง พาหุรัด (กำไลต้นแขน) และทองพระกร

            วัดแม่นางปลื้ม วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา

      ตามรอยลิซ่าวัดสุดท้ายที่วัดแม่นางปลื้ม เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาก่อนสมัยอยุธยา องค์พระนเศวรเสด็จมาพักหลบฝนที่บ้านนางปลื้ม ภายหลังนางปลื้มเสียชีวิตไป พระองค์ได้โปรดให้บรูณะวัดขึ้นมาใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแม่นางปลื้ม

         ภายในวัดมี เจดีย์ประธานทรงระฆังฐานสิงห์ล้อม ศิลปะอยุธยา ที่มีแนวคิดมาจากช้างล้อม ศิลปะสุโขทัย ได้รับการบูรณะเรียบร้อยแล้ว วิหารตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเจดีย์ประธาน อาคารก่ออิฐถือปูน ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปประธานสมัยอยุธยา ได้รับการบูรณะเรียบร้อยเหมือนกัน

       ไฮไลท์อยู่ที่ซุ้มประตูทางเข้าวัดแม่นางปลื้ม ซึ่งเป็นจุดที่ลิซ่ามายืนถ่ายรูป ทางวัดยังได้จัดทำไวนิลรูปลิซ่าขนาดเท่าตัวจริงตั้งไว้ข้างซุ้มประตู ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับลิซ่าอีกจุดหนึ่ง และก็เป็นไปตามคาดนักท่องเที่ยวมาต่อคิวรอยืนถ่ายรูปเป็นแถวยาว ต้องใช้ความอดทนรอเวลาหน่อย กว่าจะได้รูปสวยแบบลิซ่ากลับไปเป็นที่ระลึก

               แวะช้อปที่ตลาดน้ำอโยธยา

         มาปิดทริปที่ตลาดน้ำอโยธยา ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อของไปฝากคนทางบ้าน ตลาดน้ำอโยธยาแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นจุดให้อาหารปลาช่อนยักษ์ ซื้อหญ้าเลี้ยงน้องช้าง หรือจะนั่งช้างจากเล่นก็ได้

      ส่วนโซนที่ 2 เป็นตลาดน้ำ มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลางนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเลือกซื้อของฝากได้โดยรอบ หรือจะนั่งเรือชมตลาดน้ำ

               เดินทางกลับที่สถานีอยุธยา

         ขากลับรถบัสมาส่งที่สถานีอยุธยา เพราะอยู่ใกล้เกาะเมืองอยุธยากว่าสถานีบางปะอิน หลังจากนักท่องเที่ยวนักประจำที่นั่งเรียบร้อย รถไฟ KIHA ออกในเวลา 17.15 น. Staff เริ่มให้บริการน้ำส้มคั้น และขนมอาลัว ที่สั่งพิเศษจากวิทยาในวังหญิง

         ปิดท้ายด้วยเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของการรถไฟ เดินขอบคุณนักท่องเที่ยวที่มาร่วมทริปกับการรถไฟ แนะนำให้นักท่องเที่ยวสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อประเมินความพึ่งพอใจในการมาร่วมทริปในครั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสาร จองทริปต่อไปของรถไฟ KIHA และสามารถโหลดรูปที่เจ้าหน้าที่การรถไฟถ่ายให้ในทริปนี้ ได้ทางเพจ Feacbookทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

       นั่งรถไฟ KIHA 183 สืบสาน รักษา ต่อยอด @ พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตามรอยลิซ่า อยุธยา

 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 -16 กรกฎาคม 2566