THEWAYNEWS > News > นาทีมรณะ นักเรียนม.3 ขี่รถไปสอบถูกเบียดล้ม สองแถวเหยียบซ้ำดับ

aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTExNS81NTc4NjYyL3hhc3ZkZmJnLmpwZw==

ภาพวงจรปิดวินาทีนักเรียนชาย ม.3 ขี่จักรยานยนต์จะไปสอบปลายภาค ถูกรถออกมาจากซอยเบียดล้ม ร่างกระเด็นไปกลางถนนถูกสองแถวโดยสาร ที่วิ่งตามมากระชั้นชิดเหยียบทับซ้ำเสียชีวิตคาที่ 

(6 มี.ค.61) กล้องวงจรปิดของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์  ที่ติดตั้งไว้บริเวณปากทางเข้าโครงการชลประทานจังหวัด  ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สามารถบันทึกภาพวินาทีอุบัติเหตุสลด  ขณะทีนายเอส (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.3 ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กท-1209 บุรีรัมย์  มาจากบ้านหัววัว  ต.เสม็ด  เพื่อจะไปสอบปลายภาคที่โรงเรียน

แต่พอขับมาถึงบริเวณสามแยกปากทางเข้าโครงการชลประทานจังหวัด ได้มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมี นายสุทธิชัย อายุ 23 ปี เป็นคนขับ ได้ขับพุ่งออกมาจากซอยชลประทานโดยไม่จอดชะลอดูรถ ทำให้รถจักรยานยนต์ของน้องนักเรียนซึ่งขับมาทางตรงและชิดซ้ายตามไหล่ทางมาตลอด ไปเกี่ยวกับจักรยานยนต์ที่พุ่งออกมาจากซอย  จนทั้ง 2 คันเสียหลักล้ม  แต่เคราะห์ร้ายที่ร่างของน้องนักเรียนชายคนดังกล่าวกระเด็นเข้าไปกลางถนนถูกรถ 6 ล้อสองแถวโดยสารที่ขับมาตามหลังกระชั้นชิด  เหยียบทับซ้ำจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นรถสองแถวก็ขับไปส่งนักเรียนและผู้โดยสารในตัวเมืองตามปกติ  เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเสียใจให้กับพ่อแม่ของนักเรียนเคราะห์ร้ายดังกล่าวเป็นอย่างมาก  โดยทันทีที่มาเห็นศพลูกชายก็โผเข้ากอดร่างไร้วิญญาณและร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ  ที่ต้องสูญเสียลูกชาย เป็นที่น่าสลดใจแก่ผู้พบเห็น

นายพลาย อายุ 63 ปี คนขับรถสองแถ  อ้างว่า ได้ขับรถโดยสารมาตามปกติ โดยมาถึงบริเวณปากทางเข้าโครงการชลประทาน  ก็เห็นว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ซึ่งตนก็ขับผ่านไปโดยไม่รู้ว่าเหยียบทับร่างนักเรียนเสียชีวิต และไม่ได้มีเจตนาจะขับหลบหนี กระทั่งมารู้อีกทีขณะจะนำรถเข้าคิวที่ตลาดผลไม้ เมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแจ้งว่ารถของตนขับเหยียบนักเรียนเสียชีวิตก็ตกใจ

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญ เบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหากับรถจักรยานยนต์ที่ขับพุ่งออกมาจากซอย  “ขับรถโดยประมาท”  ส่วนรถสองแถวที่เหยียบซ้ำก็ต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าเข้าข่ายประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและมีเจตนาจะขับหลบหรือไม่