โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” @ Wangsel Institute Paro Bhutan

            เรื่อง สุเทพ ช่วยปัญญา ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา / ชาธร โชคภัทระ

        การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” @ Wangsel Institute Paro Bhutan โดยนำคณะวิทยากรช่างภาพมืออาชีพจากประเทศไทย ไปอบรมสอนถ่ายให้กับนักเรียนของ Wangsel Institute ประเทศภูฏาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการถ่าย นำไปเผยแพร่ Social Network ถ่ายทอดความสวยงาม ธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จักประเทศภูฏาน เพิ่มมากขึ้น

          Mr.Hon Norbu Wangchuk รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ราชอาณาจักรภูฏาน เป็นประธานเปิดงาน โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” @ Wangsel Institute Paro Bhutan พร้อมด้วย นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย Miss.Chimmy Pem Director Tourism council of bhutan Mr.Dechen Tsherin Principle Wangsel Institute เมืองพาโร ประเทศภูฏาน Mr.Thinley W.Dorji CEO Bhutan Tourism Corporation Ltd นายสมยศ นิมมานเหมินทร์ ประธานที่ปรึกษาโครงการต้นกล้า – ตากล้อง นางสุนีย์ อภิชาตกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายสุทธิเทพ นกเทศ หัวหน้าสำนักงานสื่อวิทยุ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายศุภวิชญ์ ธนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทพรีมา คอนเนคชั่น จำกัด แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลไทยและภูฏาน ร่วมเปิดงาน

      Mr.Hon Norbu Wangchuk กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ จัดกิจกรรม “สอนน้องถ่ายภาพ Young Photography” ณ Wangsel Institute Paro Bhutanในครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อสานสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ภูฎาน ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับภูฎาน หวังว่าจะเป็นโครงการที่เพิ่มทางเลือกให้กับนักเรียน ในการประกอบอาชีพด้านการถ่ายภาพในอนาคต”

    นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร กล่าวว่า “การจัดกิจกรรม โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” @ Wangsel Institute Paro Bhutan เราได้นำช่างภาพมืออาชีพมาสอนถ่ายภาพให้กับเด็กที่โรงเรียน Wangsel Institute โดยตรง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการถ่ายภาพซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากทำให้เขาได้มีโอกาสได้พัฒนา มุมมองในการถ่ายภาพ นำสู่สายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประสบการณ์แบบนี้จะต้องถูกแลกเปลี่ยนและจัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเมืองไทยทาง ททท.ก็สนับสนุนโครงการ ต้นกล้า ตากล้อง มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่โรงเรียนเศรษฐเสถียรเอง และโรงเรียนที่อยู่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ”

        วันที่ 25 สิงหาคม 2560 เป็นการอบรมวันแรก หลังทานอาหารกลางวัน น้องๆของโรงเรียน Wangsel Institute ก็ทยอยกันมาเข้าห้องอบรม ลงทะเบียนแล้วรับกระเป๋าสะพายข้างจากททท. คนละหนึ่งใบ ครั้งนี้มีวิทยากร 2 คน ให้การอบรมกับ “น้องๆต้นกล้า ชาวภูฏาน” ได้แก่ พี่เทพ ช่างภาพอิสระ เจ้าของเว็บไซด์ www.thewaynews.com และ พี่อ๋อง ชาธร โชคภัทระ นักเขียนและช่างภาพอิสระ เจ้าของเว็บไซด์ www.shutterexplorer.com เป็นผู้บรรยาย น้องๆจะได้รับการแจกกล้องคอมแพ็คคนละตัว ทุกคนต้องเอากล้องมาเซ็ตโหมดให้ถูกต้องเหมือนกันหมดก่อน ถ้าไม่ปรับโหมดให้ถูกต้องตามที่พี่อ๋องตั้งให้ อาจจะเกิดอาการที่ว่าถ่ายภาพแล้วผิดโหมด ภาพที่ออกมาอาจจะไม่ได้รับการพิจารณา ในการส่งเข้าประกวด

       “เนื่องจาก Wangsel Institute เป็นโรงเรียนที่นักเรียนมีความบกพร่องทางการได้ยิน เหมือนกับที่โรงเรียนเศรษฐเสถียร ที่โครงการต้นกล้าๆ เคยไปสอนมาแล้วสองครั้ง “น้องๆต้นกล้า ชาวภูฏาน” นั่งฟังการบรรยายของ พี่เทพและพี่อ๋อง อย่างตั้งใจกันทุกคน มีข้อสงสัยใน องค์ประกอบไหน โหมดไหนก็ซักถาม บางคนใจร้อนก็เอากล้องขึ้นมาทดลองถ่ายเพื่อนๆในห้อง การอบรมในครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้ไปถ่ายทอด มุมมองใหม่ๆ ของแหล่งท่องเที่ยว ที่เมืองปาโร และที่เมืองทิมพู ถ่ายอย่างไรถึงจะทำให้เมืองภูฏานน่ามาท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักภูฏานเพิ่มมากขึ้น

 

      ช่วงบ่ายของวันที่ 26 สิงหาคม 2560 “น้องๆต้นกล้า ชาวภูฏาน” ของเราจะไปลงภาคสนามกันที่วัด Sangchu Ghor เป็นวัดที่อยู่บนเขาสูงประมาณ 3,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองปาโร นักท่องเที่ยวทั่วไปยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก พอลงจากรถได้น้องๆก็แยกย้ายกันหามุมถ่ายภาพ ที่เป็นมุมมองใหม่ของตัวเอง บ้างก็ขึ้นมาถ่ายบนวัด บ้างคนเดินลงไปถ่ายที่จุดชมวิวริมทาง ใช้เวลาถ่ายภาพอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ขั่วโมง แล้วก็ไปถ่ายกันต่อที่วัด Kyichu Lhakhang

        มาถึงที่วัด Kyichu Lhakhang ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกของภูฏาน ที่มีความสวยงามด้วยศิลปะแบบภูฏานโดยแท้ ประกอบด้วยตัวโบสถ์ 2 หลัง และมีศาลา 6 ระฆังมนตราอยู่ด้านข้าง แสงสวยกำลังดีไม่ร้อนเกินไป “น้องๆต้นกล้า” ก็เหมือนอย่างเคย คือมุมใครมุมมัน ในโบสถ์นอกโบสถ์เลือกกันเองตามใจชอบ บางคนก็มาถ่ายนักท่องเที่ยวที่มาเดินสวดมนต์หมุนระฆังมนตราอยู่ที่ศาลาด้านนอก เพราะที่ภูฏานเขาหม้าถ่ายรูปในโบสถ์ อีกกลุ่มหนึ่งก็เดินออกมาถ่ายนักแสวงบุญที่เดินสวดมนต์หมุมระฆังมนตราที่อยู่ในมือเดินไปรอบๆวัด

       หลังพักทานข้าวเที่ยงที่โรงแรมกันแล้ว ในภาคบ่ายก็มาถ่ายกันต่อที่ Ta Dzong เดิมเป็นหอสังเกตการณ์ป้องกันศัตรูรุกราน แต่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวมรวมทางด้านศิลปะ แสตมป์ ข้าวของเครื่องใช้ อาวุธ โบาราณ ไว้ที่นี่ แต่ภายในซองยังปรับปรุงอยู่ไม่สามารถเข้าไปถ่ายได้ น้องๆต้นกล้าก็เลยเดินถ่ายบริเวณรอบซองเท่านั้น

         แล้วก็ลงมาถ่ายต่อกันที่ Paro Dzong เป็นแห่งแรกและสวยที่สุดของเมืองปาโร แสงกำลังดีเพราะเป็นช่วงบ่ายสามโมงเกือบสี่โมงแล้ว “น้องๆต้นกล้า” ก็เหมือนอย่างเคย คือมุมใครมุมมัน ในซองนอกซองเลือกกันเองตามใจชอบ บางคนก็เดินข้ามสะพานออกไปถ่ายให้เห็นสะพาน และเห็นตัวซองด้วย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของซองที่เคยรุ่งเรืองลงบนภาพถ่าย ซึ่งตัวสะพานและซองยังเป็นแบบเรือนไม้สองชั้น ที่ยังคงสภาพเกือบเหมือนในอดีตทั้งที่เวลาผ่านมาเป็นร้อยปีแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังๆหลายเรื่องในอดีตอีกด้วย หมดเวลาสำหรับการลงภาคสนามในวันนี้แล้ว น้องต้องกลับไปทานอาหารและนอนที่โรงเรียน เพราะเป็นโรงเรียนกินนอนประจำ

 

 

        เช้าวันที่ 3 ของการอบรมก็ยังเป็นการลงภาคสนามอยู่เหมือนเดิมแต่วันนี้เปลี่ยนจากเมืองปาโร มาลงสนามถ่ายภาพกันที่ เจดีย์ 108 องค์ บนยอดเขา DOCHULA เมืองทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน ขณะทีมวิทยากรเดินทางมาจากเมืองหลวงทิมพูใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มารออยู่แล้ว น้องๆอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่น้องๆต้องเดินทางกันแต่เช้าออกจากเมืองปาโร เพื่อมาให้ทันเวลานัดหมายเพื่อลงภาคสนามถ่ายรูปกันที่นี่ในวันนนี้ วันนี้มีฝนตกลงมาตลอดการเดินทาง นึกว่าจะเป็นอุปสรรคในการลงภาคสนามในวันนี้เสียแล้ว แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี

       “น้องๆต้นกล้า” คนไหนมีปัญหาหรือมีข้อสงสัยก็จะถามพี่เทพ พี่อ๋อง และพี่ๆนักข่าวจิตอาสาคอยให้ความช่วยเหลือ แนะนำตอบคำถามด้านเทคนิคการถ่ายภาพ บอกมุมมองให้บ้าง ความมุ่งมั่นของน้องๆแต่ละคนไม่ต่างกันเลย บางคนก็เดินเข้าไปถ่ายที่ในซอง อีกกลุ่มก็ลงทุนเดินข้ามฝากของเจดีย์ 108 องค์ อีกกลุ่มสามสี่คนก็พากันขึ้นไปถ่ายบนโดชูลา ซอง มุมไหนสวยมุมไหนแปลกใหม่ ถ่ายเข้าไปให้มันถูกใจ  เป้าหมายมีอย่างเดียวกันคือ ภาพถ่ายของฉันต้องเลิศและไม่เหมือนใคร

            ให้น้องๆได้พักดื่มชาทานขนมที่คณะของททท.นำมาให้ไปพลางก็ และฝนก็หยุดตกในที่สุดน้องๆก็ออกมาถ่ายภาพกันได้อย่างสนุกสนาน ถึงแม้จะมีอุปสรรคบ้างเพราะฝนไม่ได้หยุดเลยไปทีเดียวยังตกลงมาเป็นช่วงๆ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาของน้องๆในวันนี้ ช่วงไหนฝนหยุดก็ออกมาถ่าย ถ้าฝนตกก็หลบเขาไปพักในซองก่อน แล้วการลงถ่ายภาพสนามในวันนี้ก็จบลงด้วยดี หมอกสลับกับละอองฝนที่โปรยปรายลงมา มีแสงแดดอ่อนส่องแซมลงมาเป็นพักๆ ได้บรรยากาศแปลกไปอีกแบบหนึ่งซึ่งหายได้ไม่ง่ายในเมืองไทย น้องๆใช้เวลาที่มีอย่างจำกัดจนวินาทีสุดนาทีที่ต้องเรียกให้ขึ้นรถ

       ช่วงเช้าจบภาคปฏิบัติไปแล้วช่วงบ่ายกลับมาที่โรงแรม น้องๆจะต้องเลือกภาพถ่ายของตนเองมาคนละ 1 ภาพ เพื่อส่งเข้าประกวดภาพถ่าย โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” @ Wangsel Institute เมืองปาโร ประเทศภูฏาน “น้องๆต้นกล้า” ทั้งหมดหลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันแล้ว ทุกคนเข้าประจำที่นั่ง ต่างคนต่างพกเอาความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมกันทุกคน ว่าผลงานของตนเองต้องเข้าตากรรมบ้างไม่มากก็น้อย น่าจะมีโอกาสได้รับรางวัลกับเขาเหมือนกัน

      ทุกคนจะต้องส่งภาพถ่ายที่คิดว่าดีที่สุดของตัวเองมา 1 ภาพ พร้อมตั้งชื่อภาพถ่ายส่งให้คณะกรรมการตัดสิน น้องๆจะต้องออกมาพรีเซนต์ภาพของตัวเองด้วย อธิบายถึงความหมายของภาพ แรงบันดาลใจในการสร้างผลงาน ให้คณะกรรมและพี่ๆสื่อมวลชนฟัง ซึ่งน้องๆก็พูดได้ดี ถึงแม้บางคนจะพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เล่าถึงจินตนาการของตนเองแบบขัดๆเขินๆ แต่แววตาแฝงไปด้วยความมุ่งมั่น สร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการ วิทยากร และสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก

     การตัดสินในครั้งนี้ไม่เหมือนกับโครงต้นกล้าฯ ที่จัดขึ้นในประเทศไทย มาจัดที่ภูฏานในครั้งทำอย่างยิ่งใหญ่ให้สมกับเป็นงานระดับชาติ เพื่อเดินหน้าสานสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ภูฎาน จัดกิจกรรม “สอนน้องถ่ายภาพ Young Photography” ณ Wangsel Institute เมืองพาโร ประเทศภูฏาน ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับภูฎาน

       แล้วเวลาที่น้องๆรอคอยก็มาถึง คือการตัดสินการประกวดภาพถ่ายที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” @ Wangsel Institute เมืองปาโร ประเทศภูฏาน ผลการประกวดภาพถ่ายมีดังนี้ มีรางวัลชมเชยให้ 10 รางวัล เป็นตุ๊กตาน้องสุขใจจากททท. และรางวัลชนะเลิศ 5 รางวัล เป็นกล้องคอมแพค 5 ตัว ส่วนคนที่ไม่ได้รับรางวัลใดๆเลย ดูก็ยังมีความสุขดี ต่างอวดภาพถ่ายของกันและกัน นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับ ภาพถ่ายของตัวเองที่ส่งเข้าประกวดคนละ 1 ภาพ พร้อมประกาศนียบัตรอีกคนละ 1 ใบ จากททท.

           โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” @ Wangsel Institute เมืองปาโร ประเทศภูฏาน ประสบผลสำเร็จลงด้วยดี ในครั้งนี้เป็นโครงการที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขึ้นมาเพื่อเดินหน้าสานสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ภูฎาน จัดกิจกรรม ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับภูฎาน นำช่างภาพมืออาชีพมาสอนถ่ายภาพให้กับเด็กๆ สะท้อนมุมมองในการถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ที่สวยงามของภูฏาน นำสู่สายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประสบการณ์แบบนี้จะต้องถูกแลกเปลี่ยนและจัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเมืองไทยทาง ททท.ก็สนับสนุนโครงการ ต้นกล้า ตากล้อง มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่โรงเรียนเศรษฐเสถียรเอง และโรงเรียนที่อยู่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ

          แล้วพบกันใหม่กับ โครงการ “ต้นกล้า ตากล้อง” ครั้งหน้าลงพื้นที่ภาคไหน ประเทศใด ติดตามต่อได้ที่ www.onthewaynews.com ครับ

      Young Photography @ Centenary and Coronation Park Thimphu Bhutan 25 – 28 August 2017