THEWAYNEWS > Travel > In bound > “EP. เที่ยวเมืองเก่า ชุมชนริมน้ำจันทบูร” Delicious Destination @ Chanthaburi เมืองจันท์ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีดีกว่าผลไม้ น่าเที่ยวสุดๆ

      “EP. เที่ยวเมืองเก่า ชุมชนริมน้ำจันทบูร” Delicious Destination @ Chanthaburi เมืองจันท์ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีดีกว่าผลไม้ น่าเที่ยวสุดๆ

               เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา

          เส้นทาง Delicious Destination @ Chanthaburi เมืองจันท์ที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีดีกว่าผลไม้ น่าเที่ยวสุดๆ ได้เดินทางมาถึง EP. เที่ยวเมืองเก่า ชุมชนริมน้ำจันทบูร มาถึง EP. สุดท้ายจะพาไปชิมขนมโบราณแปลกๆที่ชุมชนอื่นไม่มีขาย มาเมืองจันท์ต้องมากินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง เยี่ยมชมโบสถ์คริสต์ก่อนแล้วไปเดินเล่นชมเมืองเก่า ชุมชนริมน้ำจันทบูร จะสนุกแค่ไหนเชิญติดตามได้เลยครับ

                   ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว แหล่งรวมขนมโบราณแปลกๆ

         มาเริ่มกันที่  ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว เป็นชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองจันท์ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี มีวิถีชีวิตแบบชุมชนริมคลองมากว่า 100 ปี ผลิกฟื้นกลับมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ด้วยการฟื้นฟูขนมโบราณแปลกๆ ที่เคยทำกินกันในชุมชน ทำขนมแห่ขันหมาก ขนมงานบวช ขนมตามเทศกาลงานบุญต่างๆ แต่ที่หาทานได้ยากตามที่ต่างๆในปัจจุบัน เอากลับมาทำตั้งขายภายในชุมชนอีกครั้งหนึ่ง บ้านไหนถนัดทำขนมอะไรก็ทำไป ไม่ให้ซ้ำกับบ้านอื่น เมื่อชุมชนคึกคักมีขนมแปลกๆขาย ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กล้บทำให้ ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง

       ร้านกระท้อน – สละ ทรงเครื่อง รสจัดจ้าน ตั้งขายอยู่ที่เชิงสะพานข้ามคลองปากทางเข้าชุมชน ผมเลือกเดินเลี้ยวไปทางซ้ายก่อน เป็นทางไปท่าเรือขนส่งสินค้าริมคลองหนองบัว มีจุดเช็คอินให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นจุดแรก 2 ฝั่งถนนทางไปท่าเรือมีร้านขายอาหารไปตลอดจนถึงท่าเรือ น้ำเยี่ยววัวหรือน้ำตาลอ้อย ดื่มไปเดินชมตลาดไปด้วยสดชื่นดี ขนมล่าเตียงไข่โรยร่างแหห่อด้วยกุ้งผัดหวาน ขนมตะลุ่มก็คล้ายกับขนมถ้วยแต่หน้าเป็นหน้าสังขยา มีให้เลือกลองชิมขนมโบราณแปลกๆได้ครับ

        จุดที่ 2 มีภาพเขียนฝาผนังอยู่ข้างร้านข้าวเหนียวเผือก เป็นภาพคุณยายโผล่หน้าต่างมาดูคุณตาที่หาปลาเอาฝาก ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายฮ่อยจ๊อจิ๋วตัวจิ๋วสมชื่อ ทอดร้อนๆสดใหม่ เดินไปกินไปเพลินๆ อ้อยควั่นไม่มีคนควั่นขายแล้วในกรุงเทพมหานคร เคี้ยวอ้อยควั่นเดินชมตลาดหวานชื่นใจ ขนมตังเมก็มีขาย ขนมจากก็ย่างขายกันสดๆ อยากดื่มกาแฟสดก็มีร้านให้นั่งดื่มแบบชิลๆกันได้

       จุดที่ 3 เป็นรูปกระต่ายน้อยสีขาวนอนหลับอยู่บนผนังสีเขียว อยู่ตรงสี่แยกกลางตลาด รอให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก เลี้ยวขวามาเจอร้านขายขนมสัมปันนี เกสรลำเจียก ขนมพระพาย ร้านเดียวทำขาย 3 อย่าง เป็นขนมโบราณที่หาทานที่อื่นไม่ค่อยได้แล้ว ฝั่งตรงข้ามมีร้านขนมแดกงา คล้ายขนมต้มมีไส้เหมือนกัน ต่างกันตรงที่ตัวแป้งที่โรยด้วยงาขาวและงาดำ ขนมทองม้วนสดก็ม้วนสดๆ ขนมผกากรอง ขนมช่อม่วง ก็มีขาย

         แล้วก็มาถึงไฮไลท์ของชุมชนขนมแปลก นั้นก็คือร้าน ขนมควยลิง ยายลิเป็นที่มาของชื่อชุมชนขนมแปลก เซเลปของร้านนี้ก็คือคุณยายลิ เจ้าของร้านขนมควยลิงยายลิ นั่งปั่น ขนมควยลิง ต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่หน้าร้าน ขนมควยลิงก็คล้ายกับขนมด้วง แต่มีสีม่วงสีเดียวทำจากแป้งข้าวเหนียว ปั่นให้เป็นตัวยาวๆเอาลงไปต้มในเดือด สุกแล้วเอาไปคลุกกับมะพร้าวขูด โรยด้วยน้ำตาลกับเกลือคลุกด้วยงา แป้งเหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบดีหอมมะพร้าวขูด ทานเล่นอร่อยดี

              อาสนวิหารพระแม่ปฏิสนธินิรมล โบสถ์ศริสต์สวยที่สุดในประเทศไทย

       โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล หรืออาสนวิหารพระแม่ปฏิสนธินิรมล ตั้งอยู่ริมน้ำกลางเมืองจันทบุรี สร้างมากว่า 200 ปี เมื่อก่อนคนจันท์เรียกว่าโบสถ์ญวน เนื่องจากสร้างโดยนักบุญเฮิ้ต โตแลนติโนและศริสตชนคาทอลิกชาวญวน ที่อพยพมาอาศัยอยู่ท่ีจังหวัดจันทบุรี โบสถ์ญวนสร้างมาแล้ว 4 หลัง ปัจจุบันเป็นหลังที่ 5 ย้ายมาสร้างบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรี สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2446 ตัว โบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค จำลองแบบมาจากโบสถ์ Notre Dam ประเทศฝรั่งเศส  มีโดมทรงแหลมปลายยอดประดับไม้กางเขน 2 โดม ใต้โดมด้านขวาติดตั้งนาฬิกาขนาดใหญ่ สีขาวทรงกลม บอกเวลาเห็นได้จากระยะไกลเป็นกิโล

         ด้านหน้าโบสถ์ประดิษฐานรูปปั้นพระแม่มารีอา หรือพระแม่มารีย์ พระมารดาของพระเยซูเจ้า พระศาสดาของศาสนาคริสต์ ในลักษณะทรงให้พรผายมือทั้งสองข้าง เท้าข้างซ้ายเหยียบอยู่บนตัวงู (งูหมายถึงสิ่งชั่วร้าย) อยู่บนแท่นทรงสี่เหลี่ยม มีน้ำพุล้อมรอบสองชั้น ตั้งอยู่บนพื้นหินล้างลายกลีบบัว หน้าด้านแท่นแกะสลักบทสวดบูชา พระแม่มารีย์

           ภายในตัวโบสถ์หลังคาทรงโค้งท้องเรือ ฝาเพดานประดับด้วยไม้ มีไม้กระดูกงูสลับเป็นช่วงๆตามแบบท้องเรือ หมายถึงการอพยพด้วยเรือสำเภามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ผนังโบสถ์ก่ออิฐถือปูนทาสีทับ ช่องหน้าต่างตกแต่งด้วยกระจกสีสเตนกลาส เป็นภาพนักบุญหลายองค์ มีรูปปั้นพระแม่มารีย์ตั้งอยู่ตรงกลางตัวโบสถ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวนำดอกไม้มากราบขอพรจากพระองค์ ไฮไลท์อยู่ที่รูปปั้นพระแม่มารีย์ที่ตั้งอยู่ในซุ้มด้านขาวของโบสถ์ เพราะอาภรณ์ของพระองค์ประดับด้วยเพชร พลอยกว่า 2 แสนเม็ด ด้วยศรัทธาของศริสตชนคาทอลิกชุมชนริมน้ำจันทบูร ได้ร่วมกันบริจาก

                  ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ชุมชนริมน้ำจันทบรู

        มาเมืองจันท์แล้วพลาดอะไรก็พลาดได้ สำหรับมื้อกลางวันห้ามพลาด ก๋วยเตี๋ยวหมูแลง เป็นอันขาด ที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรมีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูแลงให้เลือกชิมอยู่หลายร้านเหมือนกัน แต่วันนี้เรามาแวะทานกันที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูแลง เจ๊หน่อย เป็นเพิงเล็กๆชั้นเดียว ถ้าเดินจากโบสถ์ศริสต์ข้ามสะพานปฏิสนธินิรมลมาแล้วเลี้ยวซ้ายตรงสามแยก ร้านอยู่ใกล้กับหัวมุมสามแยกแรกของถนนริมน้ำจันทบูร

         คำว่า “เลียง” คนแถวนี้เขาเล่าต่อกันมาว่าน่าจะเป็น “ตัวเลียงผา” เพราะมีสรรพคุณทางยากินแล้วอายุยืนกระดูกแข็งแรง เมื่อก่อนแถวนี้มีเลียงผาชุกชุมชม ชาวบ้านเอากระดูกมาต้มทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช้แล้ว ใช้กระดูกหมูกับกระดูกวัวต้มทำน้ำซุป เมนูก็มีให้เลือกหลายอย่าง ทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ น้ำแห้ง มีทั้งเนื้อทั้งหมู ลูกชิ้นมีให้เลือกทาน

         เพื่อไม่ให้ขาดตอน ผมสั่งน้ำชาม แห้งชาม มาที่เดียวพร้อมกัน 2 ชาม เพราะมั่นใจในความอร่อยอยู่แล้ว สังเกตจากนี่ขนาดวันธรรมดาคนยังแน่นร้านเลย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้ำซุปเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องเทศ เผ็ดร้อนด้วยต้นเร่ว พืชตระกูลข่า สมุนไพรที่คนจันท์นิยมเอาใช้ปรุงอาหาร ต้องชิมก่อนปรุงครับ เพราะน้ำซุ๊ปร้านนี้เขาจะออกหวานอยู่แล้ว สำหรับผมเดิมน้ำส้มอย่างเดียวใช้ได้อร่อยเลย มาแล้วพลาดไม่ได้ครับ ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ชุมชนริมน้ำจันทบูร

             เที่ยวเมืองเก่า ชุมชนริมน้ำจันทบูร

      กินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงเสร็จก็มาเดินชมวิถีชุมชนริมน้ำจันทบูรกันต่อครับ เป็นชุมชนเก่าแก่เกิดขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองจันทบุรี มีอาคารเรือนแถวก่อสร้างก่ออิฐถือปูนครึ่งตึกครึ่งไม้ บางหลังก็สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่สองฝั่งถนนริมน้ำจันทบูร คนในชุมชนประกอบอาชีพค้าขายเป็นส่วนใหญ่ แต่ละบ้านถนัดทำอะไร ก็ทำสิ่งนั้นออกมาตั้งขาย กันตั้งแต่หัวซอยยันถึงท้ายซอย

              ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ร้านเจ๊อิ๊ดรสเด็ด

      ถ้าใครกินก๋วยเตี๋ยวเลียงแล้วยังไม่อิ่ม มาต่อด้วย ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ที่ร้านเจ๊อิ๊ดรสเด็ด ก็ได้ครับ ร้านอยู่บนถนนริมน้ำจันทบูร ห่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงประมาณ 200 เมตร เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ใส่ทั้งกั้ง ก้ามปู และกุ้ง รสชาติจะอร่อยเหมือน ร้านก๋วยเตี๋ยวกั้งป้านา ที่บ้านไม้รูดจังหวัดตราดไหม ก็ตัดสินกันเอาเองครับ

             ร้านขนมไข่ ป้าไต๊ ริมน้ำจันทบูร

     จากร้านก๋วยเตี๋ยวกั้งเดินต่อมาอีกหน่อย ก็มาถึง ร้านขนมไข่ ป้าไต๊ ริมน้ำจันทบูร ขายอยู่ที่นี่มากว่า 70 ปี รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 2 ช่วงที่ทำขายใหม่ๆเขาเรียกว่า ขนมฝรั่ง เพราะบาทหลวงชาวฝรั่งเศสนำสูตรมาเผยแพร่ เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นขนมไข่ เมื่อไม่นานมานี่เอง เมื่อก่อนอบด้วยเตาถ่าน ตอนนี้เปลี่ยนมาอบด้วยเตาแก๊ส แต่รสชาติไม่เคยเปลี่ยน อบกันสดๆทุกวัน กรอบนอกนุ่มในหอมไข่ ทานร้อนๆหน้าเตาอร่อยมาก

              ภาพเขียนฝาผนัง จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยม ริมน้ำจันทบูร

        แวะเช็คอินถ่ายรูปที่มุมตึก โลเกชั่นยอดนิยมของกองถ่ายภาพยนต์หลายเรื่อง จุดเช็คอินนี้อยู่ตรง 3 แยก ผนังตึกหัวมุม ห่างจากร้านขนมไข่ประมาณ 300 เมตร ภาพเขียนเปลี่ยนมาหลายภาพแล้ว สีลบเลือนจางไปก็วาดขึ้นมาใหม่ ตอนนี้เป็นรูปผู้หญิงกับต้นมะพร้าว ให้บรรยากาศชายทะเลแบบตะวันออก นักท่องเที่ยวถ้าไม่ได้แวะเช็คอินถ่ายรูปที่มุมตึกนี้ เหมือนจะมาไม่ถึงชุมชนริมน้ำจันทบูรครับ

              ศูนย์เรียนรู้ชุมชนริมน้ำจันทบูร

     ถ้าอยากจะเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นมาของ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ก็ต้องแวะมาที่ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนริมน้ำจันทบูร ก่อนครับ ตั้งอยู่ในชุมชนริมน้ำจันทบูร เกิดจากการรวมกลุ่มเพื่ออนุรักษ์สถาปัตยกรรมในชุมชนโบราณ เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า คณะกรรมการพัฒนาชุมชนริมน้ำจันทบูร ใช้อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ บ้านเลขที่ 69 บ้านของขุนอนุสรสมบัติ อายุกว่า 100 ปี เป็นที่ทำการของศูนย์ฯ

        ชั้นล่างจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย ที่คัดมาบางส่วนมาจากงานประกวดภาพถ่ายหัวข้อเรื่อง วันนี้ของวันวานที่ริมน้ำจันทบูรจัดโดย สำนักงานพานิชย์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ภาพถ่ายเล่าถึงวิถีชีวิตของคนชุมชนริมน้ำจันทบูรได้เป็นอย่างดี

        ชั้นบนจัดแสดงภาพเก่าในอดีตของบ้านเรือน และวิถีชีวิตคนในชุมชนริมน้ำจันทบูร แสดงให้เห็นบรรยากาศของชุมชนในอดีต ร้านค้าคนจีน วิถีชีวิต รวมถึงภาพเก่าหายาก ซึ่งเป็นภาพตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในสมัยที่ฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรี และมีใบอนุญาตให้มีภรรยา ใบสำคัญของกระทรวงวัง ในสมัยรัชกาลที่ 7 จัดแสดงอยู่ด้วย

               ร้านขนมโก๋โบราณ แม่กิมเซีย

           ถนนริมน้ำจันทบูรมีร้านขายขนมโบราณอร่อยอยู่หลายร้าน รวมถึงร้านขนมแม่กิมเซียด้วย เดินต่อมาจากศูนย์เรียนรู้ฯมาอีกหน่อยก็มาถึง ร้านขนมโก๋โบราณ แม่กิมเซีย ร้านนี้ทำขนมโบราณขายหลายอย่าง ขนมข้าวต้มมะพร้าวอ่อน ตะโก้ใบเตย และที่ขึ้นชื่อก็คือขนมโก๋ญวน เป็นขนมโก๋แบบโบราณเพราะมีฝักเชื่อมแทรกอยู่ในเนื้อขนมโก๋ด้วย ขนมโก๋เนื้อนุ่มได้ความหวานจากฝักเชื่อม ทานแล้วอร่อยไม่ฝืดคอ

                 ไอศครีมตราจรวด เจ้าเก่าแก่เจ้าแรกของจันทบุรี

        เดินมากว่าครึ่งทางของถนนชุมชนริมน้ำจันทบูร ผ่านเสาไฟฟ้า 100 ปี ที่หลงเหลืออยู่ต้นเดียวในชุมชน แวะชิม ไอศครีมตราจรวด เจ้าเก่าแก่เจ้าแรกของจันทบุรี เพิ่มความสดชื่นกันก่อนครับ คนจันท์จะเรียกแบบสั้นๆว่า ไอติมจรวด เป็นร้านขายไอศครีมเจ้าแรก ที่ใช้เครื่องจักรในการผลิต เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2502 ไอติมมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ มีทั้งแบบตัด แท่ง หรือแบบใส่เครื่องก็มี ผมเลือกแบบแท่งสี่เหลี่ยม เดินไปดูดไอติมจรวดไป ดูดแล้วสดชื่นไปต่อได้ครับ

                วัดเขตร์นาบุญญาราม วัดจีนชุมชนริมน้ำจันทบูร

         วัดเขตร์นาบุญญาราม เป็นวัดญวณ ลัทธิอนัมนิกาย เดิมชื่อ วัดเพื้อกเดี้ยนตื่อ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2377 ในสมัยรัชกาลที่ 3  ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดเขตร์นาบุญญาราม ตัววัดก่อสร้างเป็นศิลปแบบไทย ผสมจีน ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งชุมชนกลางใจเมืองจันทบุรี แสดงให้เห็นว่าชุมชนริมน้ำจันทบุรี มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งไทยพุทธ ไทยจีน ไทยคริสต์ ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

       EP. เที่ยวเมืองเก่า ชุมชนริมน้ำจันทบูร ด้เดินทางมาถึงย่อหน้าสุดท้ายแล้ว และเป็น EP. สุดท้ายของเส้นทาง Delicious Destination @ Chanthaburi เมืองจันท์ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีดีกว่าผลไม้ น่าเที่ยวสุดๆ จาก EP. แรกมาถึง EP. สุดท้าย ได้พบกับเส้นท่องเที่ยวใหม่ เผยให้เห็นอีกมุมมองของการท่องเที่ยว ที่มีความอร่อยของอาหารพื้นเมืองจันทบุรีเป็นตัวนำทาง ได้ดื่มกาแฟผัก เที่ยวสวนทุเรียนแบบไม่มีทุเรียนให้ฉีก นั่งเรือไปกินหอยนางรมตัวใหญ่ กินปูดูเหี่ยยวแดงที่บางสระเก้า มาจบที่การเรียนรู้วิถีชุมชนริมน้ำจันทบูร หวังว่าคงเป็นข้อมูลใหม่ให้กับนักเดินทางท่องเที่ยวได้บ้างนะครับ