THEWAYNEWS > Travel > In bound > EP. โล้งชิงช้า อร่อยกับอาหารชนเผ่า ดอยสะโง้ (Delicious Destination @ Chiangrai)

      EP. โล้งชิงช้า อร่อยกับอาหารชนเผ่า ดอยสะโง้ (Delicious Destination @ Chiangrai)

                   เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา

             สัมผัสวิถี 5 ชนเผ่า ชุมชนแม่แอบ

       ชุมชนบ้านแม่แอบ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่แอบ ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดเชียงราย คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นคนชนเผ่า อพยพหนีภัยสงครามจากจีนยูนานมาเมื่อปี พ.ศ. 2492 อาศัยอยู่ร่วมกันถึง 5 ชนเผ่า ประกอบด้วย ลาหู่ อาข่า ไทยใหญ่ ลัวะ และจีนยูนาน ทุกชนเผ่ายังรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนเผ่าไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งทางด้าน การแต่งกาย อาหารการกิน บ้านเรือน ประเพณีวัฒนธรรม และความเชื่อ ทุกชนเผ่าใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่มีแบ่งเขาแบ่งเรา และจัดตั้งเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลบ้านแซว

         จาก EP. ที่แล้วไปจิบกาแฟที่ดอยผาฮี้กันมาแล้ว EP. นี้จะไป สัมผัสวิถีคนชนเผ่า เรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรม ชิมอาหาร 5 ชนเผ่า ที่ชุมชนแม่แอบ ซึ่งแต่ละชนเผ่าก็มีอัตตลักษณ์ ทั้งทางด้านอาหารการกิน เครื่องแต่งกาย วัฒนธรรมประเพณีและความเชื่อ เป็นของตนเอง เราจะมาดูกันว่าแต่ละชนเผ่าจะมีอะไรอร่อยให้เราทานกันบ้าง ทั้ง 4 ชนเผ่า ลาหู่ ไทยใหญ่ ลัวะ และจีนยูนนาน นำคณะและอาหารมาให้เราชิมกันที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 บ้านแม่แอบ ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน ยกเว้นชนเผ่าอาข่าเขาอยากให้เราไปเยี่ยมเขาถึงบ้าน

          น้ำเต้า ขนมไข่งาขาว หู้ยำหมี่เหลือง ชุมชนจีนยูนนาน

        เริ่มกันที่ชุมชนจีนยูนาน คนล้านนาเรียกว่า จีนฮ่อ เป็นชาวจีนที่อพยพมาจากมณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจืน คนฮ่อเป็นคนซื่อสัตย์ มีความคิด สุขุม รักพวกพ้อง ขยัน พูดน้อย เคร่งครัดในประเพณีวัฒนธรรม วันนี้แต่งกายมาด้วยสีแดงทั้งชุด คนชนเผ่าจีนยูนานมีความชำนาญในการทำ เต้าหู้ยี้ เต้าหู้เหม็น และน้ำเต้าหู้ อยู่แล้ว จึงนำเอาน้ำเต้าหู้ มาต้อนรับคณะของเรา น้ำเต้าหู้ร้อนๆได้รสถั่วเหลืองเข้มข้น ทานกับขนมไข่งาขาว ขนมไข่เนื้อนุ่มหอมกลิ่นงาขาว กัดขนมไข่เข้าไปก่อนตามด้วยน้ำเต้าหู้ร้อนๆ เข้ากันได้ดีอร่อยมาก

      อีกหนึ่งเมนูที่ชนเผ่าจีนยูนานนำมาให้เราทาน ก็คือยำหมี่เหลืองยูนาน บะหมี่เส้นใหญ่จะคล้ายกับเส้นหมี่ซั่ว แต่จะเป็นสี่เหลี่ยมแล้วเส้นจะเล็กกว่าหน่อย เส้นเหนียวนุ่มไม่ร่วน ทานกับหมูสับผัดกับกระเทียม งาขาว ปรุงรสตามสูตรจีนยูนานปิดท้ายโรยด้วยผักพื้นบ้าน ได้รสเผ็ดนำตามด้วยเค็มหอมงาขาว เคี้ยวพร้อมเส้นอร่อยลงตัวพอดี

            ข้าวเหลืองอบไก่ ชุมชนไทยใหญ่

      ชิมน้ำเต้าหู้ของชนเผ่าจีนยูนานไปแล้ว คราวนี้มาที่ชนเผ่าไทยใหญ่ หรือฉาน อพยพมาจากจีนตอนใต้เหมือนกัน ภาษาที่ใช้ก็เป็นภาษาไตซึ่งเป็นต้นแบบของภาษาไทย วันนี้มาต้อนรับคณะของเราด้วยชุดชนเผ่าไทยใหญ่ ผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นลายขวางสีแดงดำ สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้าสาบเสื้อป้ายทับไปด้านเดียวกับผ้าถุง ผ้าโพกหัวสีชมพู

        อาหารที่นำมาต้อนรับคณะของเราก็คือ ข้าวเหลือง ไก่อุ๊บ และผักอีเหม็ด ข้าวเหลืองทำจากข้าวไร่ที่นิยมปลูกบนดอย คล้ายกับข้าวเหนียวทางภาคอีสาน ต้องนำมาแช่น้ำก่อนที่จะนำไปนึ่ง ตอนนึ่งใส่ผงขมิ้นลงไปก็จะได้ข้าวนึ่งสีเหลือง เสร็จแล้วเอาข้าวเหลืองคลุกกับหอมเจียว ได้ข้าวเหลือง ส่วนไก่อุ๊บก็คือแกงไก่บ้านที่ใช้เครื่องแกงและสมุนไพรสูตรไทยใหญ่ ได้ไก่อุ๊บ เนื้อแน่นหอมสมุนไพร ทานร่วมผัดผักอีเหม็ด หรือผักดอกกวางตุ้งตากแห้ง ผัดแบบคั่วแห้งกับกระเทียมเจียวและพริกแห้ง อร่อยร้อนแรงเข้ากันได้ดีอย่างมาก

                 ข้าวเหนียวเขาควาย ชนเผ่าลัวะ

         คนชนเผ่าลัวะ หรือละว้า เดิมอาศัยอยู่ในเขตมณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของจีน อพยพลงมาอาศัยอยู่ทั่วภาคเหนือของไทย และกระจายตัวไปหลายจังหวัดของประเทศไทย การแต่งกายนุ่งผ้าซิ่นสีม่วง มีลายดอกไม้สีสดตามขวางของผ้าซิ่น 2 แถบ กลางผืน และตีนผืน สวมเสื้อสีฟ้าสาบลายดอกสีชมพู ผ้าโพกหัวสีดำ

         นำข้าวเหนียวเขาควาย ของชนเผ่าลัวะมาให้เราลองรับประทาน เป็นข้าวเหนียวกับถั่วแดง ก็คล้ายกับข้าวต้มมัดของทางภาคกลาง ต่างกันตรงที่ข้าวต้มมัดใส่กะทิกับน้ำตาลทรายลงไปด้วย และมีไส้กล้วยอยู่ด้วย วิธีการทำก็ข้าวเหนียวแช่น้ำจนนิ่มแล้วใส่ถั่วดำต้มสุกเพิ่มลงไป นำมาห่อใบตองมัดด้วยตอกให้เป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายกับเขาควาย เสร็จแล้วนำไปนึ่งสุก ข้าวเหนียวเขาควาย ชนเผ่าลัวะ มีน้ำจิ้มให้เลือก 3 แบบ น้ำตาลทรายแดง นมข้น และน้ำผึ้ง ให้เลือกจิ้มกันตามใจชอบ ได้รสหวานมัน ทานเป็นอาหารว่างสำหรับตอนรับนักท่องเที่ยว

        ข้าวปุ๊ก ชนเผ่ามูเซอ

     ชาวมูเซอ หรือชาวล่าหู่ เป็นชนเผ่าที่มีกลุ่มย่อยถึง 23 กลุ่ม มีภาษามูเซอเป็นภาษาพูดเป็นของตนเอง ส่วนคำว่ามูเซอหมายถึง ชนกลุ่มน้อยที่มีความสนุกสนาน ผู้หญิงแต่งกายด้วยชุดสีดำมีทั้งแบบชุดกระโปร่งยาว และแบบนุ่งผ้าซิ่นสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ ปักลวดลายแบบมูเซอ ตามคอ แขน และสาบเสื้อ มีทั้งสีแดงและสีเขียว

     ทำข้าวปุ๊กมาต้อนรับขณะของเรา ข้าวปุ๊กหรือข้าวปุกงาของทางภาคเหนือ วิธีทำก็คือนำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วผสมกับงาแล้วเอาไปตำให้เหนียวละเอียด เสร็จแล้วปั้นให้เป็นแผ่นบางๆนำไปย่างไฟด้วยเตาถ่าน ได้ข้าวปุ๊กร้อนๆโรยด้วยน้ำตาลอ้อย เคี้ยวเหนียวหนึบหวานมันอร่อยหอมงา

               สาธิตการทำขนมจะแล ชนเผ่าอาข่า

       ชนเผ่าอาขาเป็นอีกชนเผ่าหนึ่ง ที่อพยพมาจากมณฑลยูนาทางตอนใต้ของจีน เหมือนกับ 4 ชนเผ่าที่อยู่ร่วมกันที่ชุมชนบ้านแม่แอบ ไม่ได้มาต้อนรับคณะของเราที่ที่ทำการของผู้ใหญ่บ้าน แต่ให้การต้อนรับคณะของเราที่ทำการของชนเผ่าอาข่ากันเลยที่เดียว ส่วนเรื่องเครื่องแต่งกายนั้นจัดเต็มแบบชนเผ่าอาข่ากันมาทุกคน

       มาถึงก็ได้รับการต้อนรับด้วยเครื่องดนตรีแบบเคาะจังหวะของชนเผ่าอาข่า ต่อด้วยการรดน้ำที่มือจากกระบอกไม้ไผ่ พร้อมเช็ดมือให้ด้วยผ้าสะอาดสีชมพู จากนั้นก็มาชมการ สาธิตการทำขนมจะแล ของชนเผ่าอาข่า วัตถุดิบ ข้าวเหนียว งาดำ น้ำตาลอ้อย และเกลือ

      วิธีการทำนำข้าวเหนียวไปแช่ให้นิ่มก่อน แล้วเอามาตำให้ละเอียด ร่อนเอาแป้งข้าวเหนียวที่ละเอียดมาปั้นเป็นลูกเล็กๆ เสร็จแล้วเอาไปต้มในน้ำเดือด รอให้ลูกข้าวเหนียวลอยขึ้นมาแสดงมาสุกแล้ว จากนั้นไปใส่จาน เอาน้ำตาลอ้อย งาดำ เกลือ ที่ผสมให้เข้ากันแล้ว นำมาโรยที่ลูกจะแล เคี้ยวหนึบหวานมันกำลังดีหอมกลิ่นงาดำ

                   หมูปิ้งตาปัน ชุมชนบ้านท่าขันทอง

         ชุมชนบ้านท่าขันทอง ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นหมู่บ้านต้นแบบวัฒนธรรมอีสานล้านนา ที่อพยพมาจากหลายจังหวัดทางภาคอีสาน เมื่อ 60 ปีก่อน มารวมตัวกันอยู่ที่บ้านท่าขันทอง ยังคงรักษาประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านอีสานไว้อย่างเหนียวแน่น พื้นที่ของหมู่บ้านยาวเลียบไปตามแนวริมแม่น้ำโขง เห็นวิวทิวทัศน์สวยงามของสองฝั่งโขงได้ไกลสุดสายตา ได้รับรางวัลหมู่บ้านดีเด่นด้านการท่องเที่ยวจากหลายหน่วยงาน

         จิบชาถั่วดาวอินคา กับถั่วดาวอินคาอบกรอบ และรับฟังการบรรยายความเป็นมาของชุมชนที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านท่าขันทอง ใครอยากจิบกาแฟ ก็มีร้านกาแฟท่าขันทอง ให้นั่งจิบชิลๆได้ ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์ของชุมชน ชาถั่วดาวอินคา ถั่วดาวอินคาอบกรอบ เสื้อผ้า หมวก ผ้าพันคอ ผ้าขาวม้า มาวางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจเลือกซื้อกลับบ้านได้

       จากนั้นก็มาที่ที่ทำการของชุมชนบ้านขันทอง กำลังย่างหมูปิ้งตาปั กันควันโขมง เป็นเนื้อหมูหมักสมุนไพรตามสูตรของตาปัน  เสียบไม้แล้วย่างด้วยไฟจากขอนไม้ จิ้มน้ำจิ้มยายปั๋น วิธีกินหมูปิ้งตาปันที่ถูกต้องก็คือ ต้องจิบยาดองสมุนไพรของชุมชนสัก 1 เป๊ก แล้วแก้มด้วยหมูปิ้งตาปันย่างร้อนๆ จิ้มน้ำยายปั๋น อร่อยสุดๆเข้ากันได้ดี จึงมีเป๊ก 2 เป๊ก 3 ตามมา หมูปิ้งตาปันก็หมดไปในพลิบตา

     ก่อนที่เราจะทานอาหารกลางวันที่ชุมชนบ้านท่าขันทอง มีการสาธิตการทำไส้อั่วเมนูยอดนิยมของชุมชนให้คณะของเราได้ทดลองทำกันด้วย พริกแกงทางชุมชนตำไว้ให้แล้ว เรามีหน้าที่คลุกเคล้าพริกแกงให้เข้ากับเนื้อหมูที่บดไว้แล้ว จากนั้นนำไปยัดลงในไส้หมูวิทยาศาสตร์ เสร็จแล้วนำไปย่างเสิร์ฟให้เราทานเป็นมื้อกลางวันด้วย

      วิธีเสิร์ฟอาหารที่ชุมชนบ้านท่าขันทอง จะมีขบวนแห่เชิญสำรับอาหารวน 3 รอบ เพื่อเป็นเรียกน้ำย่อยก่อน เมนูมื้อกลางวันประกอบด้วย น้ำพริกตาแดงผักสด ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ยำไก่ฉีก ต้มยำหมูใส่เห็ดหูหนู และไส้อั่วเมนูที่เราทดลองทำกันด้วย ระหว่างที่เราทานเมื่อกลางวันก็มีการฟ้อนแยงไข่มดแดงให้เราชมเพลินๆพร้อมทานอาหารอร่อยๆทุกเมนูด้วย

         นอกจากนี้ชุมชนบ้านท่าขันทองยังมีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้นอนพักค้างคืน พร้อมแพคเกจทัวร์ 2 วัน 1 คืน นั่งรถอีต๊อกลัดเลาะไปตามชุมชน หมูบ้าน ไร่นา ชมการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกทั้งเสาวรส มะนาว แก้วมังกร ถั่วดาวอินคา การสีข้าวกล้อง ต่อด้วยการไปดูการทอผ้า นั่งเรือชมวิวสองฝั่งโขงยามเย็น ฟังตำนานเรื่องเล่าถึงนครโบราณ สุวรรณโคมคำ ที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต และเป็นต้นกำเนิดของนาค 15 ตระกูล ผู้ปกปักษ์ลำน้ำโขงแห่งนี้

           ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ดอยสะโง้

        ดอยสะโง้ ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นจุดชมวิวมองเห็นวิว 360 องศา กว้างไกลครอบคลุมถึง 3 ประเทศ ไทย ลาว และพม่า ที่มีแม่น้ำโขงไหลผ่าน เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวดอยสะโง้ ยามเช้านักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกยามเช้า นั่งคอยพระอาทิตย์ยามเย็น นอนดับดาวยามคำ่คืน

        นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมาดอยสะโง้ ต้องมาขึ้นรถอีแต๊กที่จุดบริการนักท่องเที่ยวของชุมชนกันทุกคน เนื่องจากระยะทาง 1 กิโลเมตรก่อนถึงยอดดอย ทางค่อนข้างลำบากขรุขระสูงชัน บนยอดดอยมีร้านกาแฟดอยสะโง้ในนั่งจิบ หรือจะนั่งชิงช้า 3 ขา ของชนเผ่าอาข่า ให้เช็คอินถ่ายรูปได้ นอกจากนี้ยังมีโฮมสเตย์ริมยอดดอยให้นอนพักค้างคืนด้วย

       สะโง้วิว โฮมสเตย์ นอกจะมีห้องพักให้นักท่องเที่ยวนอนค้างคืนแล้ว ยังมีสะพานวงกลมไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยว เดินเล่นชมวิว เป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปชมพระอาทิตย์สวยงามอีกที่หนึ่งบนดอยสะโง้ น้องๆจะแต่งชุดชนเผ่าอาข่าน่ารักมาคอยต้อนรับคณะของเรา

       หลังจากอาทิตย์ลับเหลี่ยมทิวเขาไปแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารเย็นแบบอาข่า เมนูก็มี น้ำพริกผักสด ต้มฟัก ไข่ตุ๋น ไก่บ้านผัดเผ็ด เมนูไฮไลท์ก็คือหมูหัน ซึ่งเป็นเมนูสำคัญของชนเผ่าอาข่า จะทำหมูหันเฉพาะเทศกาลงานบุญที่สำคัญเท่านั้น ย่างกันช่วงเย็นย่างเสร็จเสิร์ฟเป็นเมนูมื้อเย็นทันที่ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม หอมสมุนไพร นักท่องเที่ยวที่มาทานอาหารเย็นบนดอยสะโง้ห้ามพลาด

                 จิบกาแฟ 30 บาท ชมวิว 3 ล้าน ยามเช้าที่ STARDOI COFFEE

        เมื่อคืนเรานอนกันในตัวเมืองเชียงราย ไม่ได้นอนบนดอยสะโง้ จึงต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้น ได้เวลาดวงอาทิตย์ก็จะค่อยๆลอยขึ้นมาหลังเหลี่ยมเขา ลำแสงทอดยาวมาผ่านสายหมอกบางๆ เผยให้เห็นแนวเขาสลับกันเป็นทิวยาว อากาศสดชื่นเย็นสบาย นั่งจิบกาแฟ 30 บาท ชมวิว 3 ล้าน ยามเช้าที่ STARDOI COFFEE สวยงามคุ้มค่าจริงๆครับ

          นั่งดิบกาแฟ จิบกาแฟไปแล้ว ถ้ายังดื่มด่ำซึมซับความสวยงามยังไม่พอ ก็สั่งอาหารเช้ามาทานกันต่อครับ มีทั้งข้าวต้มปลา ชุดอาหารเช้า ขนมปัง ไข่ดาว สลัด ทานพร้อม Cappuccino สักแก้ว ฟินสุดๆครับ นอกจากนี้ถ้าไม่อยากตื่นกันตั้งแต่ไก่โห่ เพื่อนั่งรถมาชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่ STARDOI COFFEE ยังมีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวนอนพักค้างคืนได้อีกด้วย

       ก็ได้จบลงอย่างสวยงามตลอด 2 คืน 3 วัน ของการเดินทางสำหรับ Delicious Destination @ Chiangrai ได้สัมผัสเรียนรู้ วัฒนธรรมชนเผ่าถึง 5 ชนเผ่า พบกับวัฒนธรรมอีสานที่มาเบิกบานในดินแดนล้านนา  กินหมูปิ้งตาปัน ที่ชุมชนบ้านท่าขันทอง หมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ได้รับรางวัลมากมาย ชมพระอาทิตย์ตกบนดอยสะโง้ ดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมอาหารเช้าที่ STARDOI COFFEE เชื่อมโยงเส้นท่องเที่ยวด้วยอาหารอร่อยๆของหลายชนเผ่า หวังว่าจะเป็นข้อมูลประกอบการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวได้บ้างนะครับ